แนวคิดเกี่ยวกับเบสบอลที่ปรากฏ
เบสบอล ( อังกฤษ: Baseball) เป็นกีฬาประเภททีม โดยผู้เล่นที่รับ ที่เรียกว่า ผู้ขว้าง หรือ พิทเชอร์ (pitcher) จะขว้างลูกเบสบอล ซึ่งมีขนาดประมาณเท่าก˚าปั้น มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2นิ้ว ให้ผู้เล่นทีมรุก ซึ่ง เรียกว่า ผู้ตี หรือ แบตเตอร์ ( batter) นั้นท˚าการตีลูกด้วยไม้เบสบอล ( bat)ซึ่งท˚าจากไม้หรืออะลูมิเนียม. การท˚า คะแนนในเกมนั้น จะได้จากการที่ แบตเตอร์วิ่งไปสัมผัส ฐาน หรือ เบส ( base) ซึ่งวางอยู่ตามจุดต่าง ๆ 4 จุด ตามล˚าดับโดยเริ่มตั้งแต่เบสแรกไปจนถึง โฮมเพลท และในบางครั้ง ถ้าผู้ตีได้ตีลูกบอลออกไปนอกสนามโดยอยู่ ในเส้นฟาลว์ จะเรียกว่า โฮมรัน ซึ่งจะได้แต้มไป 1 คะแนน. เบสบอลนั้นบางครั้งก็เรียกว่า ฮาร์ดบอล ( hardball) หรือ บอลแข็ง เพื่อเป็นการระบุความแตกต่างจากกีฬาอีกประเภทหนึ่ง คือ ซอฟต์บอล ( softball) ซึ่งมีลักษณะ การเล่นคล้ายคลึงกัน
ในกีฬาเบสบอลจะผลัดกันรุก ผลัดกันรับ เมื่อสลับกันรุก-รับ1รอบ เรียกว่า 1 อินนิ่ง(inning) โดย 9 คน ในสนามที่ใส่ถุงมือรอรับลูก จะเป็นฝ่ายรับ ส่วนฝ่ายที่ผลัดกันเข้ามาตี เป็นฝ่ายรุก โดยจะเข้ามาตีตามล˚าดับที่ระบุ ไว้ เมื่อตีแล้วก็พยายามวิ่งไปให้ครบ3จุด จนวิ่งกลับมาที่เดิม(ตรงที่เรายืนตี) ก็จะได้ 1 คะแนน หากตีไปจนถึงคน ที่ 9 แล้วก็วนไปที่คนที่ 1 ใหม่ จนกว่าจะถูกท˚าให้ออก 3 คน จะเปลี่ยนเป็นฝ่ายรับ เมื่อถึงคราวเป็นฝ่ายรุกในอิน นิ่งต่อไป ก็จะเริ่มจากคนที่ตีคนสุดท้ายในรอบที่แล้ว เช่น อินนิ่งที่ 1 ตีมาจนถึงคนที่ 3 แล้วถูกท˚าให้ออกครบ 3 คนแล้วจึงเปลี่ยนไปรับ เมื่อเริ่มอินนิ่งที่สอง คนที่จะเข้ามาตีเป็นคนแรกคือ ผู้ตีล˚าดับที่ 4 โดยรายชื่อผู้เล่น9หรือ 10คนจะประกาศก่อนเกมการแข่งขันเรียกว่า รายชื่อล˚าดับผู้ตี(batting order) โดยจะมีรายละเอียดคือ ล˚าดับการ ตี ชื่อ เบอร์ และต˚าแหน่งในสนาม (ในกรณีที่มีต˚าแหน่งผู้ตีแทน(DH)เป็นผู้เล่นที่จะเข้ามาตีอย่างเดียว ไม่ต้องเล่นเกมรับ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ตีแทน ต˚าแหน่งพิชเชอร์ เพราะพิชเชอร์ต้องรับบทหนักในเกมรับ หากให้ตีด้วย พิชเชอร์จะเหนื่อยเร็วมากเพราะตีแล้ว ต้องวิ่ง ควรให้พิชเชอร์ได้พักในระหว่างเป็นฝ่ายรุก อีกเหตุผลหนึ่งคือ ส่วนใหญ่พิชเชอร์จะตีไม่ค่อยดี)